ผญา
ผญา เป็นคำที่ถ่ายทอดมาจากคำว่า
“ปัญญา” และ “ปรัชญา” ตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา นักปราชญ์โบราณอีสานท่านเปลี่ยนจากคำเดิมคือ
ปัญญา แปลว่า ความรอบรู้ ดังนั้น คำว่า ผญา
ก็คงมีความหมายเช่นเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน ตามพจนานุกรมภาคอีสาน-ภาคกลาง
ฉบับปณิธาน สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ติสฺสมหาเถระ)
ให้ความหมายว่า ผญา (ผะหญา) เป็นคำนาม หมายถึง ปัญญา ปรัชญา ความฉลาด
คำพูดที่เป็นภาษิตมีความหมายลึกซึ้งในเชิงเปรียบเทียบผญา ที่หมายถึง “ปัญญา” หรือ “ปรัชญา” หากนำมาพิจารณาความหมาย ผญา ตามหลักแห่งนิรุกติศาสตร์ ผญาตรงกับคำว่า “ปรัชญา” ในภาษาสันสกฤต และคำว่า “ปัญญา” ในภาษาบาลี ผญา จึงแปลว่าปัญญา
หรือความรอบรู้ ดังคำกล่าว “ มีเงินเต็มพา บ่ท่อมีผญาเต็มปูม”
หมายถึง มีเงินเต็มภาชนะไม่เท่ามีความรอบรู้ในวิทยาการ
ผญา
เป็นคำพูดที่คล้องจองกัน ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องมีสัมผัสเสมอไป
แต่เวลาพูดจะไพเราะสละสลวยและในการพูดนั้นจะขึ้นอยู่กับจังหวะหนักเบาด้วย
ผญา หมายถึงคำพูดที่เป็นภาษิต
มีความหมายลึกซึ้ง มีความไพเราะกินใจ คำนี้หมายความว่า ปัญญาในภาษาบาลี หรือปรัชญาในภาษาสันสกฤต
ถ้าเป็นคำหรือข้อความที่ไม่แยบคายแต่สัมผัสลึกซึ้ง เป็นคติเรียกว่า “โตงโตย” ซึ่งตรงกับคำว่า “สำนวน”
ในภาษาไทย บางแห่งในคำอีสาน เรียกว่า “ยาบซ่วง”
หรือ “วาดเว้า” เช่น คำพูดเกี้ยวพาราสีของหนุ่มสาวชาวอีสานสมัยก่อน
แต่บางทีก็มักเรียกรวม ๆ กันว่า ผญา ไปเลย เพราะจะแยกจากกันให้เด็ดขาดก็ยากเต็มที ผญาจึงหมายถึงข้อความสั้น
ๆ ที่มีเสียงคล้องจองกันอย่างไพเราะแฝงแง่คิดทางคดีโลก คดีธรรม
ฉะนั้น จึงกล่าวได้ว่า ผญา คือ ถ้อยคำอันเป็นคำพูดของบรรดานักปราชญ์และบัณฑิตชาวอีสานแต่โบราณ
ซึ่งท่านได้กลั่นกรองรจนาและสั่งสมไว้ เป็นภูมิปัญญาที่เกิดจากความคิด ความฉลาด
ที่ใช้ในการอบรม สั่งสอน แนะนำ ตักเตือน โดยผ่านผู้หลักผู้ใหญ่ ครูอาจารย์ พระสงฆ์
นำมาอบรมสั่งสอนลูกหลาน ลูกศิษย์ และบุคคลทั่วๆ ไป ตลอดจนหนุ่มสาวใช้เกี้ยวพาราสีกัน
ทั้งนี้ ก็เพื่อผลต่อการศึกษา เศรษฐกิจ ศาสนา วัฒนธรรม
ตลอดจนการแสดงสัจธรรมในชีวิตจริงของคนอีสาน
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://sites.google.com/site/phasaphamuan/phya-khux-xari
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น