ยินดีต้อนรับเข้าสู่บล็อกเกอร์...ผญาอีสานพาเพลินเจริญอุรา จัดทำโดย นางสาวประกายดาว ล้วนชา นิสิตสาขาสังคมศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ผญาเกี้ยวพาราสี



ผญาเกี้ยว

ซาดที่กาดำปี้     อยากเทียมหงส์ ก็ยินยาก
ซาดที่แสงหิ่งห้อย     ซิเฮืองแจ้งแข่งพระจันทร์ได้ลือ
ดำปี้ หมายถึง ดำมากๆ
ยินยาก หมายถึง ยินดีด้วยยาก
เฮืองแจ้ง หมายถึง สว่างรุ่งเรือง
หมายความว่า ธรรมดากาดำ อยากเทียมหงส์ก็ยากยิ่ง ธรรมดาแสงหิ่งห้อยจะส่องแสงแข่งดวงจันทร์ได้อย่างไร เป็นการพูดถ่อมตัวว่าเป็นกาดำจะไปเทียมข้างหงส์ผู้สูงศักดิ์คงจะยากยิ่ง เหมือนหิ่งห้อยแสงน้อยจะไปแข่งกับพระจันทร์ได้หรือ


ซาดที่มาลานี้     ดวงหอมฮดฮ่วง
ไผผู้ได้มานั่งใกล้     ดมแล้วบ่อยากหนี
มาลา หมายถึง ดอกไม้
ฮดฮ่วง หมายถึง โรยรื่น
หมายความว่า ธรรมชาติของดอกไม้ ที่มีกลิ่นหอมสดชื่นอยู่ตลอดไป ผู้ใดได้มานั่งใกล้ ดอมดมแล้วไม่อยากจากไป เป็นการชมเขาว่าสวยงามน่ารักเช่นเดียวกับดอกไม้ ผู้ใดได้เข้ามานั่งใกล้ชมแล้วไม่อยากหนีไกล


อ้ายนี่เป็นดั่งจอกอยู่น้ำ     ฮากหยั่งบ่เถิงดิน
ไหลเวินไปเวินมา     หลดบ่มีเฟือยค้าง
ฮาก หมายถึง ราก
เวินไปเวินมา หมายถึง วนเวียนไปมาไม่มีหลักยึด
เฟือย หมายถึง กิ่งไม้ที่จมอยู่ในน้ำ
หมายความว่า พี่นี้เป็นดั่งจอกอยู่ในน้ำ รากหยั่งไม่ถึงดิน มีแต่ไหลวนเวียนไปมา ไม่มีเศษกิ่งไม้ใบหญ้าให้เกาะ เป็นคำพูดอ้อนวอนของผู้ชายต่อผู้หญิงเพื่อขอความรักว่าพี่นี้ยังไม่มีคู่รัก ไม่มีคู่ครองเป็นหลักแหล่ง ยังล่องลอยไปๆมาๆหาที่พักพิงและยึดหลักไม่ได้


อ้ายนี่เป็นดั่งหมาดำน้อย     แหงนคออยู่ท้องตาล่าง
นางบ่ถี้มก้างให้     หมาน้อยส่วนซิตาย
ท้อง หมายถึง ใต้ ข้างล่าง
ตาล่าง หมายถึง ใต้ถุนบ้าน
ส่วน หมายถึง คงจะเป็นเหตุให้
เป็นการเปรียบเปรยหรือต่อว่าต่อขานของชายหนุ่มอ้อนสาวให้สาวสงสารได้แบ่งหัวใจรับรักกับเขาด้วย ถ้าไม่สงสารรับรักจากเขาแล้วก็มีหวังตาย



ขอบคุณข้อมูลจาก : หนังสืออธิบายผญา ๑ (ฉบับปรับปรุงแก้ไข ๒๕๔๕) บอกลูกหลานเล่ม ๑๐

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น